1.1 ความปลอดภัยในการทำงานกับสารเคมี
ข้อควรรู้เกี่ยวกับสารเคมี
- สารเคมีบางชนิดสามารถติดไฟได้ง่าย
- สารเคมีบางชนิดสามารถระเบิดได้
- แม้จะปราศจากความร้อนแต่สารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงก็สามารถ ระเหยเป็นไอได้ ทำให้ความชื้นในบรรยากาศโดยรอบเพิ่มขึ้นได้ และบรรยากาศโดยรอบมีความบริสุทธิ์น้อยลง
- การสัมผัสกับไอระเหยของสารเคมีมากเกินไป ทำให้ระคายเคืองต่อหู ตา จมูก ปาก รู้สึกผิดปกติในกระเพาะอาหาร ความสามารถใน การทำงานจะลดน้อยลง
- สารเคมีทุกชนิดสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง ถ้ากระเด็นเข้าตา โดยเฉพาะสารเคมีที่ร้อน แต่ก็ยังอันตรายน้อยกว่าการขับรถท่ามกลาง การจราจรที่วุ่นวาย
- ระดับความปลอดภัยของสารเคมีจะต้องให้สอดคล้องกับ ค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้
- ค่ามาตรฐานความปลอดภัยจะช่วยให้ทุกคนปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัย
- การที่จะมีสุขภาพดีและมีความปลอดภัยในการทำงานจะต้อง อาศัยความร่วมมือจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งความรับผิดชอบของฝ่ายบริหาร คือ ต้องปฏิบัติตามค่ามาตรฐานความปลอดภัย
- ควรเฝ้าระวังสภาพแวดล้อมการทำงาน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนงาน และเก็บบันทึกผลไว้
- ให้คำแนะนำกับคนงานเรื่อง อันตรายของสารเคมีที่ใช้ในสถานประกอบการ
- จัดเตรียมสถานที่ปฏิบัติงานให้มีความปลอดภัย มีปัญหาในพื้นที่การทำงานแจ้งให้หัวหน้าทราบทันที
- ถ้าคิดว่าการปฏิบัติงานไม่ปลอดภัย สามารถขอความร่วมมือให้มีการประเมินอันตรายต่อสุขภาพได้จาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
- ปฏิบัติตามกฎระเบียบในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด ตลอดเวลาต้องทำงานด้วยความระมัดระวังและ ผู้ปฏิบัติต้องได้รับการฝึกมาอย่างดี
- ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัยตลอดเวลา
- ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีปัญหาควรปรึกษาหัวหน้างาน หรือเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
องค์ประกอบที่บ่งชี้อันตรายของความเป็นยาพิษที่เกิดจากสารเคมีขึ้นอยู่กับ
- ความไวรับของแต่ละบุคคล
- อายุ
- ภาวะโภชนาการ
- ระยะเวลาของการเกี่ยวข้องสัมผัส
- ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ เช่น การสัมผัสกับความร้อนจะเสริมให้เกิดอันตรายมากยิ่งขึ้น
สารเคมีเข้าสู่ร่างกายโดย
- ทางหายใจเข้าไป
- โดยการกินเข้าไป
- สัมผัสทางผิวหนัง
- ผ่านทางรกจากแม่ถึงลูก
ความเป็นพิษของสารเคมี แบ่งเป็นกลุ่มได้ดังนี้
- สารที่ทำให้เกิดการระคายเคือง คัน แสบ ร้อน พุพอง เช่น กรด ต่างๆ ก๊าซคลอรีน แอมโมเนีย ซัลเฟอร์ไดออกไซด์
- สารที่ทำให้หมดสติได้ สารเคมีนี้ไปแทนที่ออกซิเจน เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจน ไซยาไนด์
- สารเสพติด เป็นสารที่เป็นอันตรายต่อระบบประสาท เช่น สารที่ระเหยได้ง่าย ได้แก่ แอลกอฮอล์ เบนซินอะซิโตน อีเทอร์ คลอโรฟอร์ม ทำให้ปวดศีรษะ เวียน มึนงง
- สารที่เป็นอันตรายต่อระบบการสร้างโลหิต เช่น ตะกั่วจะไปกดไขกระดูก ซึ่งทำหน้าที่สร้างเม็ดเลือดแดง ทำให้เม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติเกิดโลหิตจาง
- สารที่เป็นอันตรายต่อกระดูก ทำให้กระดูกเสียรูปร่าง หรือทำให้กระดูกเปราะ ฟอสฟอรัส แคลเซียม
- สารที่ทำอันตรายต่อระบบการหายใจ เช่น ปอด ทำให้เกิดเยื่อพังผืด ไม่สามารถแลกเปลี่ยนกับออกซิเจนได ความจุอากาศในปอดจะน้อยลงทำให้หอบง่าย เช่น ฝุ่นทราย ฝุ่นถ่านหิน
- สารก่อกลายพันธ์ ทำอันตรายต่อโครโมโซม ซึ่งความผิดปกติจะปรากฏให้เห็นในลูกหรือ ชั้นหลาน เช่น สารกัมมันตภาพรังสี สารฆ่าแมลง โลหะบางชนิด ยาบางชนิด
- สารก่อมะเร็ง ทำให้สร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ มากเกินความจำเป็น ทำให้เกิดเนื้องอกชนิดที่ไม่จำเป็น เช่น สารกัมมันตภาพรังสี สารหนู แอสแบสตอสนิเกิ้ล เวนิลคลอไรด์ เบนซิน
- สารเคมีที่ทำให้ทารกเกิดความพิการ คลอดออกมามีอวัยวะไม่ครบ เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ แขนด้วน ขาด้วน ตัวอย่างของสารในกลุ่มนี้ ได้แก่ ยาธาลิโดไมด์ สารตัวทำละลายบางชนิด ยาปราบศัตรูพืชบางชนิด
สารเคมีที่สั่งซื้อมาใช้ ควรมีฉลากปิดกำกับดังนี้
- ชื่อทางการค้า
- ชื่อทางเคมี
- ชื่อและที่อยู่ของผู้ผลิตและจำหน่าย
- สัญลักษณ์อันตราย
- ลักษณะความเสี่ยง
- ข้อแนะนำความปลอดภัย
นอกจากนี้บริษัทฯ ควรจะได้มีข้อมูลความปลอดภัยเคมีภัณฑ์ ประกอบด้วย
- ชื่อทางเคมี
- อันตรายต่อร่างกายและสุขภาพ
- ทางเข้าสู่ร่างกาย
- การเฝ้าระวังสุขภาพของคนงาน
- ระดับที่อนุญาตให้สัมผัสได้
- ข้อควรระวังในการใช้
- การควบคุมความปลอดภัยและการปฏิบัติงาน
- อุปกรณ์อันตรายส่วนบุคคล
- ข้อปฏิบัติเมื่อเกิดการรั่วไหล
- มาตรการฉุกเฉิน
- การปฐมพยาบาล
- แหล่งข้อมูลอื่นๆ
หลักในการควบคุมและป้องกันอันตราย จากสารเคมี
แหล่งกำเนิดของสารเคมี
แหล่งกำเนิดของสารเคมี
- ใช้สารที่มีพิษน้อยกว่าแทน
- เปลี่ยนกระบวนการผลิตใหม่ เช่น ใช้ระบบเปียกแทนระบบแห้ง เพื่อมิให้เกิดฝุ่นฟุ้งกระจาย
- แยกกระบวนการผลิตที่มีอันตรายออกต่างหาก
- สร้างที่ปกปิดกระบวนการผลิตให้มิดชิด มิให้สารเคมีฟุ้งกระจายออกไป
- ติดตั้งระบบดูดอากาศเฉพาะที่
- การบำรุงรักษา เครื่องมือ เครื่องจักร
ทางผ่านของสารเคมี
- การบำรุงรักษาสถานที่ทำงานให้สะอาดเรียบร้อย
- การติดตั้งระบบระบายอากาศทั่วไป
- เพิ่มระยะทางให้ผู้ปฏิบัติห่างจากแหล่งสารเคมี
- การตรวจหาปริมาณสารเคมีเทียบกับค่ามาตรฐานความปลอดภัยจะต้องปรับปรุง แก้ไขหากสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานความปลอดภัย
ผู้ปฏิบัติงาน
- การให้การศึกษาและการฝึกอบรมให้ทราบถึงอันตรายและการป้องกัน
- การลดชั่วโมงการทำงานที่เกี่ยวกับสารเคมีที่เป็นอันตรายให้น้อยลง
- การหมุนเวียนหรือการสับเปลี่ยนหน้าที่การปฏิบัติงาน
- การให้ผู้ปฏิบัติงานทำงานอยู่ในห้องที่ควบคุมเป็นพิเศษ
- การตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน
- การใช้เครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคล
การใช้สารเคมี
- ต้องทราบถึงอันตรายของสารเคมีและวิธีการควบคุม
- ต้องล้างมือทุกครั้งหลังปฏิบัติงานกับสารเคมี
- สวมอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลเสมอ
- ทำความสะอาดบริเวณทำงานทุกครั้งหลังเลิกงาน
- ปิดฝาภาชนะให้แน่นทุกครั้งหลังเลิกใช้
- อย่า! ใช้ปากดูดสารเคมีแทนลูกยาง
- จัดเก็บสารเคมีไว้ในที่เย็น อากาศถ่ายเทดี ห่างแหล่งกำเนิดประกายไฟ
- อย่า! ปฏิบัติงานตามลำพังหรือไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
- อย่า! ทดสอบโดยการสูดดมหรือกลืนกิน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น